การวิจารณ์ ของ ทศพร วชิระบำเพ็ญ

รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ศาสตราจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงเธอว่า[3]

"เราเชื่อเรื่องกรรมมาแต่เดิมอยู่แล้ว มีอยู่ในระบบสังคมไทย...คือคำตอบของคนที่เหว่ว้า ความเชื่อนี้คนใหญ่คนโตก็เชื่อ ไม่ใช่แค่ชาวบ้าน มีบทบาทมีความคิดอ่านที่แสดงต่อสังคมชัดเจน...อย่างปี 2540 ก็เคยมีหนังสือของแม่ชีทศพรที่ดังมาก ๆ...มองว่าเป็นการอาศัยเวลาสั่งสมบ่มเพาะความนิยมขึ้นมา และสำนักพิมพ์เองก็สนับสนุน...จะเห็นว่านี่ไม่ใช่การสร้างคนเขียน ทว่า เป็นการสร้างความคิดความเชื่อขึ้นมา เป็นการมองในแง่บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ ว่าให้ผลประโยชน์กับใครมากกว่าระหว่างผู้อ่านและผลกำไรทางธุรกิจ"

ขณะที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ว่า[3] [6]

"พิธีแก้กรรมไม่มีอยู่ในหลักพุทธศาสนา แต่ถือเป็นลัทธิกรรมพาณิชย์ หนทางแก้กรรมต้องทำที่ตัวเอง พระพุทธเจ้าไม่เคยแสดงธรรมคำสอนเรื่องกรรมว่า ผู้อื่นสามารถแก้กรรมของตนได้ ให้ดูชีวิตในปัจจุบันว่าหว่านพืชชนิดใดก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น

"...พระพุทธเจ้าตรัสว่า ลัทธิที่สวนทางกับหลักพระพุทธศาสนามีอยู่สามลัทธิ คือ 1. ลัทธิแล้วแต่กรรมเก่า, 2. ลัทธิแล้วแต่พระเจ้าบันดาล, 3. ลัทธิแล้วแต่โชคชะตาจะพาให้เป็นไป...ลัทธิทั้งสามนี้พึงทราบว่าเป็นลัทธินอกพระพุทธศาสนา ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า ใครสมาทานเข้าก็มีแต่เสื่อมลง มองไม่เห็นทางว่าจะสร้างสรรค์พัฒนาชีวิตให้เจริญก้าวหน้าไปได้อย่างไร เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ลัทธิทั้งสามจะไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า แต่คนไทยก็เชื่อมั่นในลัทธิกรรมเก่ากันอย่างแน่นแฟ้น จนทุกวันนี้ ใครมีปัญหาชีวิตอะไร ก็พานยกให้เป็นเรื่องที่เนื่องมาแต่กรรมเก่าไปเสียทั้งหมด"

อย่างไรก็ดี สาวกของทศพรตอบโต้ความคิดเห็นข้างต้นว่า "...เป็นการเข้าใจผิดและมองด้านเดียว และต้องการโจมตีเพื่อให้เสียชื่อเสียงมากกว่า จากการที่ให้แม่ชีเปิดกรรมนั้น แม่ชีสามารถทราบว่าเคยทำแท้งมา ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยบอกใคร ทำให้เชื่อมั่นว่า แม่ชีแนะนำและช่วยเหลือได้ ทั้ง นี้แม่ชีได้แนะนำวิธีการแก้กรรมให้ชีวิตดีขึ้น จึงกลายเป็นลูกศิษย์ของแม่ชีมาหกปีแล้ว"[7]

ต้น พ.ศ. 2554 มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบซึ่งส่วนวีดิทัศน์ (video clip) สามเรื่องเกี่ยวกับทศพร เรื่องแรก ชื่อว่า "แก้กรรมด้วยการให้เด็กเอา 2 ที" มีเนื้อภาพและเสียงความยาวเจ็ดนาที ห้าสิบเจ็ดวินาที ว่า ทศพรกำลังนั่งสนทนากับสาวกหลายคน มีหญิงคนหนึ่ง อายุราวสี่สิบปี สอบถามเธอว่าทำไมถึงอยู่กับสามีได้ไม่ยืดสักคน เธอจึงแนะนำให้แก้กรรมโดยไป "เอา" (ร่วมเพศ) กับผู้ชายที่มีอายุน้อยกว่าจำนวนสองหน แล้วให้หญิงนั้นกอดและหอมแก้มสาวกที่เป็นชายอายุราวสามสิบปีซึ่งนั่งฟังอยู่ด้วยกัน สองครั้ง แล้วให้หญิงจ่ายเงินให้กับชายทั้งสองคนละสองร้อยบาท, อีกเรื่อง ชื่อ "แม่ชีทศพร 054 หอยแก้กรรม" ความยาวสามนาทีเศษ โดยปรากฏว่า หญิงอายุสามสิบปีเศษคนหนึ่งปรึกษาทศพรว่า เหตุใดคนรักจึงได้นอกใจ เธอนั่งทางใน แล้วแนะนำว่า เป็นกรรมเก่าตั้งแต่ชาติปางก่อนที่หญิงคนนั้นเคยเป็นข้าศึกเปิดประตูเมืองให้พม่าเข้ามาตีไทย ทำให้ "หอย" (อวัยวะเพศหญิง) ของหญิงนั้นเปิดอ้า ไม่อาจรับใครไว้ได้ ให้แก้กรรมโดยนำเปลือกหอยมาติดหน้าประตูบ้าน แล้วสิ่งไม่ดีจะไม่ย่ำกรายเข้ามาภายในบ้าน โดยเฉพาะ "หอย" ของตัวเองจะได้ไม่ถูกย่ำยี และอีกเรื่อง ชื่อ "แม่ชีทศพร 015 กรรมที่ไม่เคารพสามี" ความยาวหกนาที สิบเอ็ดวินาที โดยทศพรกล่าวแก่สาวกหญิงคนหนึ่งว่า เพราะไม่เคารพสามี ครอบครัวจึงเป็นหนี้สิน ให้กราบสามีทุกวันจึงดี[8]

ส่วนวีดิทัศน์ดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์เป็นอันมาก โดยเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2554 ในเว็บไซต์พันทิพ มีผู้ตั้งกระทู้ หัวเรื่องว่า "นี่มันซ่องสุ่มสมาคมอะไรกัน เวรกรรมแท้ ๆ", "เรื่อง แม่ ชีทศพร ในคลิปนี้ ท่านมีความเห็นยังไงกันบ้างครับ??" และ "ประเด็นเรื่องแม่ชีทศพร ไม่ได้อยู่ที่แค่คำพูด 'หนูก็ให้เด็กมันเอาซัก 2 ทีสิ' " มีผู้แสดงความคิดเห็นในกระทู้ดังกล่าวไปในทางเดียวกัน คือ ความไม่เหมาะสมของทศพร[9] [10] [11]

วันที่ 27 เมษายน 2554 นิพิฏฐ์ อินท​รส​มบั​ติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางไป​พบ​ทศพรที่​วัดพิชยญาติการามฯ เพื่อสั่งสอนตักเตือน[12] โดยเขากล่าวว่า "...เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะสิ่งที่แม่ชีเรียกว่าการแก้กรรม ผมเห็นว่าน่าจะเป็นการเพิ่มกรรมให้กับลูกศิษย์มากกว่า จึงต้องเดินทางมาตักเตือนกันบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้นำเอาคลิปวีดิโอดังกล่าวไรต์ใส่แผ่นซีดีมาฝากไว้กับผู้แทน เพื่อรอมอบให้ พระพรหมโมลีฯ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามฯ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่วัด ดูด้วย เพื่อให้ท่านสั่งการแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อไป และหลังจากนี้ หากพบว่าแม่ชีทศพร ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคำสอนดังกล่าวอีก ก็จะต้องมีการลงโทษตามมาตรการทางการปกครองของกระทรวงวัฒนธรรมต่อไป"[8] หลังจากที่นิพิฏฐ์เดินทางกลับแล้ว ทศพรได้แถลงข่าวว่า จะปรับปรุงคำสอนของตนต่อไป[8]

วันที่ 28 เมษายน 2554 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเรียกให้พระพรหมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามฯ สั่งสอนตักเตือนสัมทับทศพรในเรื่องข้างต้นอีก โดยนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า "...เจ้าอาวาสได้ไปว่ากล่าวตักเตือนแม่ชีทศพรแล้ว ซึ่งแม่ชียอมรับผิดและขอโทษ...พฤติกรรมของแม่ชีไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนา แต่ยอมรับว่ามีคนไทยจำนวนมากยังมีความเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่..."[13]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ทศพร วชิระบำเพ็ญ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=asiaw&mon... http://webboard.mthai.com/7/2006-01-08/184644.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y104657... http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y104885... http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y104962... http://news.sanook.com/1019284-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%... http://thossaporn.com/ http://www.komchadluek.net/detail/20110427/96025/%... http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.thairath.co.th/content/edu/167284